สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม เป็นประธานในงานทอดกฐิน ที่เมืองคิรูน่าลับแลนด์

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 นางสาวบาจรีย์ พึ่งพักตร์ อัครราชทูตที่ปรึกษา และอุปทูต (รักษาการเอกอัครราชทูต) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์ม เป็นประธานในงานทอดกฐิน ที่เมืองคิรูน่า ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยสมาคมไทยคิรูน่าลับแลนด์ (Thailändska Föreningen i Kiruna Lappland) สมาคมไทยยัลลิวาเรลับแลนด์ (Thailändska Föreningen i Gällivare Lappland) และผู้แทนชุมชนไทยจากเมืองต่างๆ ในภาคเหนือของสวีเดน ทั้งจากเมือง Kiruna, Gällivare, Piteå, Boden, Luleå, Umeå, Örnsköldsvik, Kalix, Harads รวมถึงคนไทยที่อาศัยในภาคอื่นของสวีเดน เช่น Gothenburg, Gotland, Uppsala สมาชิกชุมชนไทยจากประเทศฟินแลนด์ และนอร์เวย์ และอีกหลายเมืองที่อาจมิได้กล่าวถึงได้หมด เป็นต้น

พระสงฆ์ที่ประกอบพิธีในงาน ได้แก่

1) พระมหาสมาน ชาตวิริโย นักธรรมเอก, ปธ. 6 พรรษาที่ 13 อาจารย์วิทยาลัยพระธรรมทูต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสังกัดวัดมหรรณพาราม กทม.

2) พระมหาสินชัย สิริปญโณ (ศรีมูลชัย) นักธรรมเอก ปธ. 8 พรรษาที่ 13 จำพรรษาที่วัดปิยธรรมาราม เมือง Bispgården Ragunda สังกัดวัดโปรดเกศเชษฐาราม อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

3) พระอาจารย์ยา นักธรรมเอก พรรษาที่ 13 จำพรรษาที่วัดป่าสุขใจ เมือง Östersund สังกัดวัดป่าสุขใจ อ.บางพลี สมุทรปราการ

4) พระไตรรัตน์ พุทธวิริโย นักธรรมเอก , ปธ. 1-2 พรรษาที่ 10 สำนักวิปัสสนาโพธิธรรม เมืองคิรูน่า/ยัลลิวาเร

5) พระมหาอัครเดช จิรวฑูฒโน (อ่อนจงไกร) นักธรรมเอก, ปธ. 3 พรรษาที่ 7 จำพรรษาที่วัดปิยธรรมาราม เมือง Bispgården Ragunda สังกัดวัดโปรดเกศเชษฐาราม อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

นอกจากนี้ นาง Malin Rolund จนท.ฝ่ายวัฒนธรรม จากเทศบาลเมืองคิรูน่า (Kiruna Kommun) ได้เดินทางมาร่วมกล่าวแสดงความยินดีในงานด้วย

นอกจากการประกอบพิธีสงฆ์ การทำบุญตักบาตร การถวายสังฆทาน และพิธีการทอดกฐินแล้ว ในงานยังมีการจัดทำโรงทานการกุศลให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทานอาหาร มีการแสดงทางวัฒนธรรม เช่น การรำไทยโดยเยาวชนไทย-สวีดิช การร้องเพลงหมอลำ เป็นต้น เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้แก่คนต่างชาติ และในช่วงท้ายมีกิจกรรมร้องรำทำเพลงร่วมกันระหว่างผู้ร่วมงานเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีของชุมชนไทย รวมแล้วมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 350 คน และมียอดทำบุญกฐินรวม 130,189 โครนาสวีเดน โดยผู้จัดงานจะนำเงินดังกล่าวไปเป็นกองทุนทำนุบำรุงสำนักวิปัสสนาโพธิธรรม หรือทำการสาธารณกุศลอื่นๆ ต่อไป